ครั้งที่ 3
บันทึกการเรียนรู้
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่ากายและสุขภาพ (Children with Physical and Health)
4. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่ากายและสุขภาพ (Children with Physical and Health)
- เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
1. อาการบกพร่องทางร่างกาย
2. ความบกพร่องทางสุขภาพ
1. อาการบกพร่องทางร่างกาย
- ซีพี. ( Cerebral Palsy )
- การเป็นอัมพ่าตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือเป็นผลมาจากหลังคลอดที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
- การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดขึ้น
- อัทพาตเกร็งของแขนขา หรือครึ่งซีก ( Soastic )
- อัมพาตของลีลาการเคลื่อนไหวผิดปกติ
- อัมพาตการสูญเสียการทรงตัว
- อัมพาตตึงแข็ง ( Rigid )
- อัมพาตแบบผสม
- เกิดจากเส้นปราสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- จะมีความพิการซ้อนในระยะหลังคือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก ( Club Foot )กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลัง
- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ เช่น วัณโรค กระดูก หลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอกกระดูก
- กระดูกหัก ข้อเคลื่อน
มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
- แขนขาด้วนแต่กำเนิด ( Limb Deficiency )
- โรคกระดูกอ่อน ( Osteogenesis Imperfeta )
2. ความบกพร่องทางสุขภาพ
- โรคลมชัก ( Epilepsy )
เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องจากความผิดปกติ
- ลมบ้าหมู ( Grand Mal )
- เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชัก กล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
- เป็นอาการชักชั่วระยะเวลาสั้นๆ 5-10 วินาที
- เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
- เด็กจะนั่งเฉย หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
- เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้ทลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหาย และนอนไปชั่วครู่
- เกิดอาการเป็นระยะๆ
- กัดริมฝีปาก ไม่รู้สึกตัว ถูตามแขนขา เดินไปมา
- บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก
- เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
- โรคเบาหวาน ( Diabetes mellitus )
- โรคข้ออักเสบรูมตอยด์
- โรคศีรษะโต ( Hydreocephalus )
- โรคหัวใจ ( Cardiac Conditions )
- โรคมะเร็ง ( Cancer )
- เลือดไหลไม่หยุด ( Hemophilia )
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
- ท่าทางคล่ายกรรไกร
- เดินขากะเพลก หรืออืดอาดเชื่องช้า
- ไอเสียงห้องปอยๆ
- มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
- หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจากบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
- หกล้มบ่อยๆ
- กิวและกระหายน้ำเกินกว่าเหตุ
เด็กที่พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ใช้ในการพูดไม่สามารถเป็นไปตามลำดับขั้นการใช้อวัยวะเพื่อการพูดไม่เป็นไปดังตั้งใจ มีอากัปกิริยาที่ผิดปกติขณะพูด
1. ความผิดปกติด้านการออกเสียง
- ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของภาษาเดิม
- เพิ่มหน่วยเสียงเข้าในคำโดยไม่จำเป็น
- เอาเสียงหนึ่งมาแทนอีกเสียงหนึ่ง เช่น กวาด เป็น ฟาด
3. ความผิดปกติด้านเสียง
- ระดับเสียง
- ความดัง
- คุณภาพของเสียง
4.1. Motor aphasia
- เด็กที่เข้าใจคำถาม หรือคำสั่งแต่พูดไม่ได้ ออกเสียงลำบาก
- พูดช้าๆ พอพูดตามได้บ้างเล็กน้อย บอกชื่อสิ่งของพอได้
- พูดไม่ถูกไวยากรณ์
- เด็กที่ไม่เข้าใจคำถาม หรือคำสั่ง ได้ยินแต่ไม่เข้าใจความหมาย
- ออกเสียงไม่ติดขัด แต่มักใช้คำผิดๆ หรือใช้คำอื่นซึ่งไม่มีความหมายมาแทน
- เด็กที่ออกเสียงได้ไม่ติดขัด เข้าใจคำถามดี แต่พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้ มักเกิดร่วมไปกับอัมพาตของร่างกายซีกขวา
- เด็กที่ออกเสียงได้ เข้าใจคำถามดี พูดตามได้ แต่บอกชื่อวัตถุไม่ได้ เพราะลืมชื่อ
- เด็กไม่เข้าใจทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
- พูดไม่ได้เลย
- เด็กที่ลอกตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ไม่ได้
- เขียนตามคำบอกไม่ได้
- เด็กที่อ่านไม่ออก เพราะไม่เข้าใจภาษา
- เด็กที่เห็นตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ใหญ่เข้าใจความหมายแต่อ่านออกเสียงไม่ได้
- ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia)
- ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria)
- คำนาณไม่ได้ (acalculia)
- เขียนไม่ได้ (agraphia)
- อ่านไม่ออก (alexia)
- เด็กที่มองเห็นวัตถุ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บางทีบอกชื่อนิ้วตัวเองไม่ได้
- เด็กที่ไม่มีความบกพร่องทางการได้ยินแต่แปลความหมายไม่เข้าใจ ของคำหรือประโยคที่ได้ยินไม่เข้าใจ
- ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องให้เบาๆ และอ่อนแรง
- ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
- ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
- หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
- ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
- หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
- มีปัญหาในการสื่อความหมายพูดตะกุกตะกัก
- ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
- ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ ว่ามีลักษณะอย่างไร อาการเป็นแบบไหน
- สามารถนำเอาสิ่งที่เรียนในวันนีนำไปเป็นความรู้ไว้ใช้ในอนาคตได้